วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

ปัดมาสคาร่า ช่วยให้ดวงตาคุณดูสวยขึ้น

0 ความคิดเห็น

ปัดมาสคาร่า ช่วยให้ดวงตาคุณดูสวยขึ้น



เพราะว่าดวงตาเป็นจุดสังเกตแรกของใบหน้าหากแต้มเติมด้วยมาสคาร่า ขนตาจะดูหนาขึ้นและดูเย้ายวนมากขึ้น

สิ่งสำคัญในการเลือกมาสคาร่าคือ ขนตาของตัวคุณเอง ต้องทราบว่าขนตาเป็นแบบใด มีลักษณะใด ถ้าขนตายาวแต่บางก็ควรเลิกมาสคาร่าที่ทำให้ขนตาดูหนาขึ้น เข้มขึ้น (Thickening mascara) หรือขนตามีลักษณะสั้นแต่หนาก็ควรเลือกมาสคาร่าแบบต่อขนตา (Lengthening mascara) ส่วนสีของมาสคาร่านั้นมีหลายเฉดสี แต่ละเฉดสีจะให้ความสวยหรือว่ามิติแตกต่างกันไป ส่วนจะเลือกสีไหนนั้น อันนี้ขอแนะนำว่า ต้องลองเท่านั้นถึงจะรู้ว่าเฉดสีไหนที่เหมาะกับสไตรการแต่งหน้าของเรา ส่วนการเลือกแปรงปัดควรเลือกที่กว้างและหมุนเป็นเกลียว หากมาสคาร่าเป็นแบบต่อขนตาให้ยาว ควรจะเลือกแปรงที่ขนแปลงถี่ๆจะทำให้ปัดได้แม่นยำขึ้น สำหรับคนที่ชอบใช้มาสคาร่ากันน้ำ ต้องระวังเพราะว่ามาสคาร่ากันน้ำทุกยี่ห้อจะมีสารทำละลาย (solvents) ซึ่งจะทำให้ขนตาดูไม่หนาเข้ม และบางทีอาจทำให้ขนตาแห้งกรอบด้วย ซึ่ง ถ้ารู้สึกว่าขนตาเริ่มแห้งกรอบ แนะนำให้ใช้ conditioner บำรุงขนตา หรือลง Primer ก่อนปัด จะทำให้มาสคาร่ากันน้ำติดดีขึ้น

หลังจากเลือกมาสคาร่าได้แล้วก็มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาฝาก

วิธีหลีกเลี่ยงมาสคาร่าเกาะเป็นก้อน เลอะเวลาปัด คือ เช็ดหรือปาดเนื้อมาสคาร่าส่วนเกินออกจากแปรงปัด จากนั้นอยู่ที่วิธีการปัด คือ ต้องหมุนแปรงปัดให้ครบรอบ จะเลี่ยงการเกาะเป็นก้อนได้ดี และ สิ่งต้องห้าม คือ ปั๊มแปรงมาสคาร่าเข้า-ออกจากแท่ง ก่อนปัด เพราะจริงๆ แล้ว เราจะได้แต่ลมเข้าไปทำให้เนื้อมาสคาร่าแห้งเร็วขึ้น เวลาใช้ก็จะดูเกรอะ เลอะเป็นก้อนหนักขึ้นกว่าเดิมอีก

ที่สำคัญคืออย่าใช้มาสคาร่าร่วมกับคนอื่น แต่ควรเปลี่ยนแท่งใหม่ทุกๆ 3 เดือน เพราะแบคทีเรีย สามารถเจริญเติบโตในหลอดได้





Read More...

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

ทาครีมบำรุงอย่างไรให้ถูกวิธี

0 ความคิดเห็น


ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นหญิง หรือชายเริ่มหันมาเอาใจใส่ดูแลผิวกันทุกคน และครีมบำรุงผิวนั้น เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง ซึ่งแต่ละคนมีวิธีการทาครีมที่แตกแต่งกัน วันนี้เราก็จะมาบอกวิธีการทาครีมอย่างถูกวิธีที่จะช่วยทำให้ผิวสวยขึ้นได้มาฝาก

ก่อนการทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดก่อน แล้วเลือกปริมาณครีมที่ใช้ให้พอเหมาะ เพราะถ้าใช้ครีมบำรุงผิวน้อยเกินไปก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร หรือถ้ามากเกินไป ก็จะทำให้ผิวหน้ามันเกินไป และก็เปลืองโดยใช่เหตุ ซึ่งส่วนใหญ่จะประมาณ 1 ข้อมือหรือ 1 ลูกเชอรี่ หรือถ้าเป็นครีมที่มีคุณภาพดีๆ อาจจะใช้น้อยกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของครีมบำรุงผิวยี่ห้อนั้นๆ

เริ่มแต้มครีมบำรุงผิวที่บริเวณ 5 จุด ของใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก แก้มทั้งสองข้าง และคาง

ใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง เกลี่ยให้ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจากบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน เช่น โหนกแก้ม โดยเริ่มจากส่วนกลางไปยังส่วนข้างๆ โดยทางด้านซ้ายออกซ้าย และทางด้านขวาออกขวา แล้วตามด้วยแนวสันจมูก ใต้โพรงจมูก คาง และหน้าผาก โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ เพราะอาจจะต้องใช้ครีมชนิดเฉพาะรอบดวงตาทาแทน

การลงน้ำหนักนิ้ว ควรจะเบาที่สุด เพราะผิวหน้าเป็นผิวที่บอบบาง ถ้าลงน้ำหนัก แรงเกินไป อาจจะทำให้เกิดรอยย่นได้

การทาครีมรอบดวงตา ควรใช้ปริมาณเนื้อครีมประมาณ 1 เมล็ดถั่วเขียว แล้วใช้นิ้วนางเพียงนิ้วเดียวในการทา เพราะจะน้ำหนักกดเบาที่สุด แล้วทาครีมไล่ตามแนวโครงกระดูกเบ้าตา อาจจะเริ่มที่หัวตาหรือหางตาก่อนก็ได้ แล้ววนครีมรอบๆ ดวงตาจะวนเข้าหรือวนออกก็ได้ตามถนัด แต่ต้องวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง

การทาครีมบริเวณลำคอ ควรใช้ปริมาณเนื้อครีมเท่ากับที่ใบหน้า โดยเริ่มทาจากบริเวณที่กว้างที่สุดของลำคอก่อนคือ บริเวณฐานลำคอแล้วใช้ปลายนิ้วทั้งหมดค่อยๆ ลูบไล้ขึ้น ไม่ควรทาลง เพราะจะทำให้ผิวบริเวณลำคอหย่อนยานไปตามแนวโน้มถ่วงของโลก ทำให้เกิดรอยย่นได้

การทาครีมบริเวณหน้าอก อาจจะใช้ครีมที่เหลือจากลำคอ ทาลูบไล้ในช่วงอกต่อไปได้ โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ และวนให้ทั่วแผ่นอก เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว แล้วค่อยไล่ทาไปที่หน้าท้องและส่วนหลัง

การทาครีมบริเวณแขน จะเริ่มต้นที่ต้นแขนด้านท้องแขนก่อน แล้วทาวนขึ้นหลังแขน โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว

การทาครีมบริเวณขาและเท้า จะ เริ่มต้นที่ต้นขาก่อน แล้วทาวนจากด้านต้นขาไปปลายขา โดยการใช้ปลายนิ้วลูบไล้เพียงเบาๆ เพื่อการซึมซับของเนื้อครีมสู่ผิว ควรจะเน้นบริเวณหน้าแข้งสองข้างให้มาก เพราะบริเวณนี้จะแห้งได้ง่าย ส่วนบริเวณเท้าควรทาทั้งสองด้าน คือ หลังเท้าและฝ่าเท้า พร้อมทำการนวดไปทั่วอุ้งเท้า เพื่อผ่อนคลายการ

Read More...

ล้างหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี

0 ความคิดเห็น



หลังจากแต่งหน้ามาตลอดทั้งวันแล้ว ต้องทำความสะอาดใบหน้าเพื่อขจัดสิ่งแปลกปลอมบนใบหน้า เช่น เครื่องสำอาง การล้างหน้าให้สะอาดเป็นวิธีที่ดีที่สุด การล้างหน้านั้นต้องล้างให้ถูกวิธี หากล้างไม่ถุกวิธีใบหน้าอันสุดหวงของเราอาจะเกิดความเสียหายได้

ล้างหน้าอย่างไรให้ผิวหน้าใสตลอดวัน

เทคนิคการล้างหน้าที่ถูกวิธีเป็นอีกเคล็ดลับหนึ่งที่จะให้คุณมีผิวหน้าที่สวย แต่รู้ไหมว่าควรจะล้างหน้าวันละกี่รอบ? รอบละกี่ครั้ง? ล้างอย่างไรถูซ้ายไปขวาหรือล่างขึ้นบน? ล้างด้วยสบู่หรือเจลหรือโฟมล้างหน้ากันดี? คำตอบอยู่ทางนี้

การล้างหน้าวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ คือการล้างหน้าตอนเช้าและเวลาที่อาบน้ำตอนเย็น ไม่ควรล้างหน้าบ่อยครั้งเพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งและลอกได้ กรณีที่ผิวของคุณสกปรกจริง ๆ เช่น หลังเล่นกีฬา ทำสวน ทำไร่ ปลูกต้นไม้ หรือคุมงานก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้าน ก็อาจจะเพิ่มการล้างหน้ารอบพิเศษอีกสักครั้งก็ได้

เวลาล้างก็ต้องลูบไล้แต่เบามือ ไม่เช็ด ไม่ถู ไม่ควรใช้คลีนเซอร์หรือเอ็กซเทอร์นอลเช็ดหน้าเพราะจะทำให้ผิวถลอกลอกได้ หากถู ล้างหน้าแรงๆ จะเป็นการทำร้ายหน้าของคุณเอง การล้างหน้าบ่อย ๆ บางท่านอาจจะคิดว่าดี แต่เป็นความเข้าใจที่ผิด และมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าตามมา วิธีที่ถูกต้องและสมควรทำมากที่สุด คือ "ยุ่งกับผิวให้น้อยที่สุด"

ถ้ามีเครื่องสำอางค์รองพื้น หากเครื่องสำอางค์ไม่ได้กันน้ำ คุณก็สามารถเลือกใช้สบู่เจลใสอ่อน ๆ ของเบบี้หรือของผู้ใหญ่ก็ใช้ได้ เลือกประเภทที่เหมาะกับประเภทผิวของตัวเอง จะได้ผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เวลาล้างก็ลูบไล้ เบา ๆ ทั่วหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าอย่างเบามือ แค่นี้ใบหน้าก็สะอาดใสอย่างใจต้องการ

หลังล้างหน้าให้ซับเบา ๆ ไม่เช็ด ไม่ถู ผิวจะได้ไม่หยาบกร้านและใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าเบาๆ หากล้างหน้าเสร็จแล้วรู้สึกลื่น ๆ เหมือนไม่เกลี้ยง ซับหน้าเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนู ไม่ต้องไปวิตกจริตว่ามันจะลงไปอุดตันทำให้เกิดสิว หากจะเป็นสิวก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดจากฮอร์โมนเพศในตัวคุณเอง

โดยสรุปแล้ว ให้ล้างหน้าเบา ๆ เช้าครั้งเย็นหน ใช้สบู่เหลว ลูบไล้เบา ๆ เอาแค่พอลื่น ๆ ไม่ต้องสะอาดเอี่ยมอ่องนะ แล้วก็ซับหน้าเบา ๆ ตามด้วยโทนเนอร์อีกนิด แค่นี้หน้าของคุณก็สะอาดใสไปตลอดทั้งวัน



Read More...

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เริ่มต้นการแต่งหน้าอย่างถูกวิธี

0 ความคิดเห็น

เคล็ดลับ..การแต่งหน้าครั้งแรก

วันนี้มีเคล็ดลับการแต่งหน้าแบบง่าย ๆ มาฝาก


1. ล้างหน้าให้สะอาดก่อนการแต่งหน้าทุกครั้ง


ก่อนที่จะแต่งหน้าทุกครั้ง สิ่งที่ต้องปฏิบัติจนเป็นนิสัย คือการล้างหน้าให้สะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ที่ผิวหน้าออกให้หมดก่อน จากนั้นก็ล้างหน้าตามปกติ ซับหน้าให้แห้ง ก่อนการแต่งหน้า
2. ทาครีมบำรุงผิวก่อนลงครีมรองพื้นก่อนการแต่งหน้าทุกครั้ง


หลังล้างหน้าเสร็จแล้วให้ลืมทาครีมบำรุงผิวก่อนการแต้งหน้า (ครีมที่คุณใช้อยู่ทุกวันนั่นแหละ) แล้วตามด้วย ครีมรองพื้น เพื่อปรับสีผิวบนใบหน้าให้เรียบเนียนเสมอกัน โดยแตะครีมรองพื้นตรงบริเวณที่ไม่มีริ้วรอยก่อน แล้วค่อย ๆ เกลี่ยไล่ให้ทั่ว ระวังอย่าให้มีขอบบริเวณกรอบหน้า ควรเกลี่ยรองพื้นให้หายเข้าไปในไรผมรวมถึงบริเวณริมฝีปากด้วย (อาจใช้เฉพาะผู้ที่มีสีผิวที่ไม่เสมอกัน) ส่วนในการเลือกครีมรองพื้น ก็ควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวบริเวณคอให้มากที่สุด

3. ตามด้วยแป้งฝุ่น หรือแป้งแข็ง



สำหรับที่เลือกใช้แป้งฝุ่นในการแต่งหน้า ก็ควรเลือกแป้งฝุ่นชนิดโปร่งแสง เพราะจะไม่ทำให้สีของรองพื้นที่เลือกแล้วเปลี่ยนเป็นขาวขึ้นหรือคล้ำลง ในการทาแป้งให้ใช้พัฟหรือแปรงด้ามใหญ่สุดจุ่มแป้งฝุ่นหรือแป้งแข็งแล้ว เกลี่ยบนใบหน้าให้ทั่ว

4. เขียนคิ้ว



ก่อนที่จะเริ่มเขียนคิ้ว เราก็ต้องกันคิ้วให้ได้รูปทรงที่สวยงามเสียก่อน จากนั้นก็เขียนคิ้วได้ การแต่งหน้าไม่ควรเลือกดินสอเขียนคิ้วสีดำ เพราะจะทำให้หน้าดุ และดูสูงวัย ลองเปลี่ยนเป็นดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาล จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นกว่า
5. สีตาด้วยอายแชโดว์


ก่อนที่จะทาอายแชโดว์ในการแต่งหน้าควรแตะแป้งฝุ่นบริเวณใต้ตาเสียก่อน จากนั้นก็เลือกสีที่ต้องการทา โดยใช้สีที่อ่อน เช่น สีขาว สีครีม สีชมพูอ่อน ๆ ทาให้ทั่วเปลือกตา ถ้าใส่เสื้อผ้าสีโทนร้อนควรใช้อายแชโดว์สีส้มเกลี่ยจากแนวหางตามาทางหัวตา แล้วใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเกลี่ยชิดแนวขอบตา เริ่มจากหางตาเข้ามากึ่งกลางตา ขอบตาล่างก็ควรทำเช่นเดียวกันเพื่อให้เกิดความสมดุลแห่งสีสัน แต่ถ้าใส่เสื้อผ้าสีโทนเย็นควรใช้อายแชโดว์สีชมพูหรือม่วง แล้วใช้อายแชโดว์สีน้ำเงินหรือสีเทาเกลี่ยชิดแนวขอบตา

6. ปัดขนตา



ในปัจจุบันก็มีมาสคาร่ามากมายหลายแบบให้เราได้เลือกในการแต่งหน้า ทั้งชนิด เพิ่มความยาวให้กับขนตา เพิ่มความหนา และแบบธรรมดา สำหรับสาวที่มีขนตายาว งอน สวยเป็นทุน ก่อนที่จะปัดมาสคาร่าในแต่ละครั้ง สำหรับผู้ที่มีขนตาเป็นเส้นตรง ไม่โค้งงอน ก็ต้องเพิ่มความอ่อนหวานกันสักหน่อย โดยการดัดขนตา แต่ไม่ควรที่จะกดแรงเกินไป เพราะขนตาอาจจะขาดได้ หลังจากนั้นก็เลือกมาสคาร่าสีที่เข้ากับอายแชโดที่เราทาลงไป หรือจะเป็นสีน้ำตาลเข้มก็ ดูเป็นธรรมชาติดี โดยเริ่มปัดจากโคนขนตาด้านบน ไล่ขึ้นมาจนถึงปลาย แล้วก็อย่าลืมที่จะปัดขนตาล่างด้วยล่ะ


7. ปัดแก้มให้ดูมีเลือดฝาด

วิธีการแต่งแต้มพวงแก้มของคุณให้เป็นสาวสุขภาพดีก็ถือเป็นส่วนสำคัญในการแต่งหน้า หากจะทำให้แก้มดูมีเลือดฝาด ต้องเริ่มจากการใช้แปรงขนนุ่มขนาดใหญ่ ไล้สีตรงส่วนที่กินบริเวณมากที่สุดของแก้มคุณ ก็คือใต้โหนกแก้ม หรือสันแก้มตรงตำแหน่งใต้ตา จากนั้นยิ้มให้กับตัวเองในกระจก และปัดไล่ขึ้นตามแนวสันแก้มขึ้นไปหาขมับ เกลี่ยสีให้กลมกลืนกับสีผิวขึ้นไปหาแนวตีนผม เพื่อให้ละเมียดละไมเป็นธรรมชาติ แต่อย่าปัดให้ดูแดงเกินไปจนเหมือนโดนตบล่ะ

8. แต่งเติมสีที่เรีนวปากเป็นอันเสร็จเรียบร้อย



ขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้าก็เป็นการแต่งแต้มเรียวปากของคุณ ให้ดูเป็นสาวสุขภาพดี ซึ่งลิปสติกเดี๋ยวนี้ก็มีออกมามากมายหลายแบบให้เราได้เลือก ทั้งลิปสติก ลิปกลอส ลิปปาล์ม หรือลิปทินท์ (Lip Tint) ซึ่งก่อนที่จะทาลิปในแต่ละครั้งก็ควรที่จะทาลิปปาล์มก่อน เพื่อเพิ่มความชุมชื้นให้กับริมฝีปาก จากนั้นจึงตามด้วยลิปกลอส หรือลิปสติก ส่วนลิปทินท์นั้น เป็นลิปเนื้อเหลวคล้ายๆกับลิปกลอส แต่ว่ามีความเหนียวน้อยกว่า ใช้แตะริมฝีปากพอให้เห็นสีบางๆ และยังเห็นพื้นผิวของริมฝีปากอยู่ ก็จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด


Read More...